แนะนำตัว Dr.Pong

แนะนำตัว Dr.Aom

Treatment Training and Activities (2)

< >

Balavi Delivery อาหารสุขภาพ

จานอร่อยเพื่อคนสุขภาพดี จานรักษาโรค ตามแพทย์แนะนำ

โยคะ เพื่อสุขภาพ

การดูแลสุขภาพที่ส่งผลดีต่อด้านร่างกาย และด้านจิตใจ

บรรยาย สัมมนาสุขภาพ

รับจัดบรรยาย สัมมนาสุขภาพ ให้กับหน่วยงานและองค์กรต่างๆ

คอร์สธรรมชาติบำบัด

สอนปฏิบัติ แนะวิธีดูแลสุขภาพด้วยอาหาร ออกกำลังกาย

ไฮโดรแอโรบิค

การออกกำลังกาย เคลื่อนไหวในน้ำต่อเนื่องกัน มีความหนัก ความเบาผสมผสานกัน มีจังหวะของดนตรี

Iridology

อ่านม่านตา เข้าใจสุขภาพ และปลดล็อค Inner เพื่อ Growth Mind Set

บำบัดผื่นคันด้วยตนเอง

                อากาศร้อน อากาศแห้ง คนเรามักมีผื่นคัน บางคนบอกว่าเหงื่อออก ฝุ่นมาก ทำให้มีผื่น แต่ที่แท้ผื่นคันที่ผิวหนังไม่ได้เกิดจากอากาศเป็นสาเหตุทั้งหมด    แต่เกิดจากหลายสาเหตุคือ  ผื่นแพ้  ความเครียดทั้งทางกายและใจ  รวมทั้งการสัมผัสกับสารระคายเคืองต่าง ๆ

 

 

สารระคายผิว

                สารระคายผิวในชีวิตประจำวันที่พบบ่อยได้แก่ ผงซักฟอก รวมทั้งน้ำยาปรับผ้านุ่ม น้ำยาล้างจาน น้ำยาทำความสะอาด น้ำยาเช็ดพื้นเกือบทุกประเภท

                ดังนั้นหากคุณเกิดผื่นคันที่ผิวหนัง  โดยเฉพาะที่มือและเท้า  ลองพิจารณาดูว่าเกิดหลังจากคุณเปลี่ยนยี่ห้อผงซักฟอก น้ำยาล้างจาน ฯลฯ หรือไม่  หรือหากไม่ได้เปลี่ยนผลิตภัณฑ์ที่คุณใช้นั้นได้เติมสารพิเศษลงไปอีกเช่นสีสะท้อนแสงเพื่อให้ผ้าดูใหม่เสมอ หรือน้ำยาทำความสะอาดเพิ่มสารที่ทำให้เกิดความแวววาวใช่หรือไม่

 

                หากใช่ คุณก็จะต้องหยุดใช้ผลิตภัณฑ์นั้น ๆ  หาอะไรอื่นที่ระคายเคืองน้อยกว่า  มีการเติมโน่นเติมนี่ลงไปในน้ำยาน้อยกว่า

                ยังมีวัสดุหรือสารบางอย่างที่อาจทำให้เกิดอาการผื่นคันที่ผิวหนังเพราะแพ้อีกเช่น ยาง โลหะประเภทนิกเกิล(จากเครื่องประดับ) น้ำหอม  เครื่องสำอาง พืชหรือยาบางชนิดทั้งยากินยาทา

                อาการแพ้วัสดุและสารข้างต้นมักจะมีประวัติเหมือน ๆ กันคือ ตอนใช้ในครั้งแรกไม่มีอาการ แต่พอใช้นาน ๆ ไปถึงจะเกิดอาการของผื่นคัน  ลองสังเกตดี ๆ เช่นอาการแพ้โลหะหรือวัสดุของเครื่องประดับมักจะเกิดบริเวณที่สัมผัสนั้นโดยตรง เช่นตรงตำแหน่งของจี้ ของกำไล หรือก้านตุ้มหู หรือบริเวณที่ใส่น้ำหอมเท่านั้น

                หากมีอาการเช่นนี้คุณต้องเลี่ยงสิ่งที่ก่ออาการแพ้ตลอดไปจึงจะหายขาด

อาการผื่นแพ้จากจิตประสาท

                อาการผื่นคันชนิดนี้มักจะเกิดเพราะมีสาเหตุทางจิตใจ เช่นเครียด กังวล  ผื่นมักจะเกิดจากการเกา ยิ่งเกายิ่งคัน ยิ่งคันยิ่งเกา ทำให้ผื่นกำเริบกลายเป็นผื่นที่เรื้อรัง  ส่วนมากพบผื่นบริเวณ ข้อมือ ข้อเท้า  แขนขาด้านนอก(ตรงที่เกาถนัด)

 

 

               ผื่นชนิดนี้อาจจะพอหาสาเหตุเริ่มต้นได้เช่น ผิวแห้ง  ผื่นแพ้  การสัมผัสสารระคายเคือง บางครั้งก็เป็นเพราะการไหลเวียนของเลือดและน้ำเหลืองไม่ดี เช่นมีเส้นเลือดขอด หรือขาบวมมาก่อน ทำให้สารพิษคั่งอยู่ที่ผิวหนังทำให้เกิดอาการคัน แล้วการเกาทำให้ผื่นเรื้อรังยิ่งขึ้น

ผื่นคันในผู้สูงอายุ              

บางครั้งผู้สูงอายุก็มีผื่นคันได้ง่าย เพราะผิวคนมีอายุบางตัวลงและระคายเคืองง่ายกว่า  ประกอบกับเมื่อเกิดผื่นแล้วก็หายยากกว่าคนหนุ่มสาว  แค่อากาศร้อน เหงื่อออกมากหน่อย ก็เกิดอาการระคายเคืองแล้ว

ธรรมชาติบำบัดรักษาผื่นคัน

เมื่อเกิดผื่นคันไม่ว่าจากสาเหตุใด ให้เอาสาเหตุของอาการแพ้ออกก่อนเช่น หยุดใช้ผงซักฟอกนั้น ๆ   และธรรมชาติบำบัดมีวิธีแก้ดังนี้

              1.วิธีบรรเทาอาการคัน เพื่อไม่ให้เกาและทำให้ผื่นกำเริบทำได้ดังนี้คือ  อาจจะใช้ยาประเภทยาหม่องทาบรรเทาอาการคัน หากเป็นผื่นแห้ง และเป็นไม่มาก   นอกจากนี้เราสามารถใช้วิธีโบราณกล่าวคือ

               - ให้เอาใบพลู 5-6 ใบมาตำแล้วผสมเหล้าขาวทาบริเวณผื่นคัน วิธีนี้เหมาะสำหรับผื่นคันที่เกิดเป็นบางที่

               - ให้เอาขมิ้นชันทาผื่นวันละครั้ง วิธีทำนั้นง่ายมาก เพียงแต่ตัดหัวขมิ้นให้เปิดออกแล้วใช้ทาผื่นได้เลย  แต่ถ้าผื่นคุณมีน้ำเหลืองไหลเยิ้มแล้วไม่ควรใช้วิธีนี้  และควรเอาขมิ้นสดมาแช่ตู้เย็นค้างไว้ เพื่อทำให้หมดยางตามธรรมชาติเสียก่อน

               - ใช้น้ำสมุนไพร ทาหรือประคบบริเวณผื่นคัน  สมุนไพรที่ใช้ได้แก่ คาโมมายล์  ทีทรี ลาเวนเดอร์ เป็นต้น

              โดยเตรียมน้ำชาด้วยการต้มคาโมมายล์ แก่ ๆ(หาซื้อได้ที่โครงการหลวง) แล้วผสมลงในน้ำผสมผงฟู(โซเดียมไบคาร์บอเนต) โดยใช้น้ำ 2 ลิตรต่อผงฟู 1 ช้อนโต๊ะ  ใช้ทาผื่นหรือเอาผ้าก๊อซชุบน้ำสมุนไพรแล้วปิดไว้ตรงผื่น วันละ 1-2 ครั้ง

               ส่วน ทีทรีกับลาเวนเดอร์สามารถใช้เป็นน้ำมันหอมระเหย  โดยใช้ครั้งละ 5-8 หยด ลงในน้ำผสมผงฟู

               - ให้แช่น้ำรำข้าว วิธีนี้เหมาะสำหรับคนที่เป็นผื่นคันทั้งตัว  ทำได้ดังนี้คือ  ก่อนอื่นคุณต้องมีอ่างอาบน้ำ  ให้เตรียมน้ำเย็นใส่อ่าง  เอาน้ำแข็งโรยลงไป เอาให้เย็นจัด พอทนได้ สามารถทดสอบดูโดยเอามือจุ่มดู  แล้วลงไปนอนแช่ทั้งตัวเป็นเวลานาน 10-15 นาที  จากนั้นไขน้ำออก  เอาน้ำอุ่นจัด ๆ พอทนได้ใส่อ่างแทน  แล้วเอารำข้าวละเอียดประมาณ 100 กรัมห่อผ้าขาวบาง ขยำเอาแต่น้ำใส่ลงไปในอ่าง  แล้วลงนอนแช่นาน 20 นาที

               วิธีนี้เป็นการใช้สารแพนโทเทนิกในรำข้าวมารักษาอาการคัน  อาการคันจะหายแทบปลิดทิ้ง  แต่ข้อควรระวังคืออย่าให้รำข้าวเล็ดลอดลงไปในน้ำ เพราะเศษของรำข้าวจะทำให้เกิดผดผื่นและทำให้คันยิ่งขึ้น  อาจจะต้องใช้ผ้าขาวบางห่อ 2-3 ชั้นจึงจะดี

               หลักการนี้คือ  ต้องแช่น้ำเย็นจัดก่อน  หลังจากนั้นให้เตรียมน้ำรำอุ่น ซึ่งต้องการเวลานานประมาณ 15 นาทีหลังจากขึ้นมาจากน้ำเย็น  เพราะถึงตอนนั้นโดยปฏิกิริยาของการแช่น้ำเย็นจะทำให้เส้นเลือดที่ผิวหนังขยายตัวเต็มที่  เมื่อแช่น้ำรำ แพนโทเทนิคในรำข้าวจึงจะส่งผลแก้อาการของผื่นและแก้อาการคัน

               มีคนเทียบแพนโทเทนิกว่ามีผลเช่นเดียวกับแอนติฮีสตามีนเลยทีเดียว

                2. เพิ่มประสิทธิภาพของภูมิต้านทาน เพื่อให้ร่างกายสามารถเยียวยาตัวเองดีกว่าเดิม  โดยการเปลี่ยนอาหาร เป็นข้าวกล้องทุกมื้อ กินผักสดวันละ 2 จาน กินผลไม้สดวันละ 2 ผล และน้ำผลไม้คั้นสดวันละ 200 ซีซี. เช่นน้ำส้มคั้นสด  เพื่อที่จะได้วิตามินซีเพียงพอในการเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของเม็ดเลือดขาวและภูมิต้านทาน

 

News feed